เมนู

9. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา

[243] นวเม ทุมฺมโนติ อุปฺปนฺนโทมนสฺโสฯ กสฺมา ปนายํ เอวํ ทุกฺขี ทุมฺมโน ชาโตติ? ขตฺติยปพฺพชิโต เหส, เตน นํ ปพฺพาเชตฺวา ทุปฏฺฏสาฏกํ นิวาสาเปตฺวา วรจีวรํ ปารุเปตฺวา อกฺขีนิ อญฺเชตฺวา มโนสิลาเตเลน สีสํ มกฺเขสุํฯ โส ภิกฺขูสุ รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐานํ คเตสุ ‘‘ภิกฺขุนา นาม วิวิตฺโตกาเส นิสีทิตพฺพ’’นฺติ อชานนฺโต โภชนสาลํ คนฺตฺวา มหาปีฐํ อารุหิตฺวา นิสีทิฯ ทิสาวจรา อาคนฺตุกา ปํสุกูลิกา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา, ‘‘อิมินาว นีหาเรน รโชกิณฺเณหิ คตฺเตหิ น สกฺกา ทสพลํ ปสฺสิตุํฯ ภณฺฑกํ ตาว ฐเปสฺสามา’’ติ โภชนสาลํ อคมํสุฯ โส เตสุ มหาเถเรสุ อาคจฺฉนฺเตสุ นิจฺจโล นิสีทิเยวฯ อญฺเญ ภิกฺขู ‘‘ปาทวตฺตํ กโรม, ตาลวณฺเฏน พีชามา’’ติ อาปุจฺฉนฺติฯ อยํ ปน นิสินฺนโกว ‘‘กติวสฺสตฺถา’’ติ? ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘มยํ อวสฺสิกาฯ ตุมฺเห ปน กติวสฺสตฺถา’’ติ? วุตฺเต, ‘‘มยํ อชฺช ปพฺพชิตา’’ติ อาหฯ อถ นํ ภิกฺขู, ‘‘อาวุโส, อธุนา ฉินฺนจูโฬสิ, อชฺชาปิ เต สีสมูเล อูกาคนฺโธ วายติเยว, ตฺวํ นาม เอตฺตเกสุ วุฑฺฒตเรสุ วตฺตํ อาปุจฺฉนฺเตสุ นิสฺสทฺโท นิจฺจโล นิสินฺโน, อปจิติมตฺตมฺปิ เต นตฺถิ, กสฺส สาสเน ปพฺพชิโตสี’’ติ? ปริวาเรตฺวา ตํ วาจาสตฺตีหิ ปหรนฺตา ‘‘กิํ ตฺวํ อิณฏฺโฏ วา ภยฏฺโฏ วา ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต ปพฺพชิโต’’ติ? อาหํสุฯ โส เอกมฺปิ เถรํ โอโลเกสิ, เตน ‘‘กิํ มํ โอโลเกสิ มหลฺลกา’’ติ? วุตฺเต อญฺญํ โอโลเกสิ, เตนปิ ตเถว วุตฺเต อถสฺส ‘‘อิเม มํ ปริวาเรตฺวา วาจาสตฺตีหิ วิชฺฌนฺตี’’ติ ขตฺติยมาโน อุปฺปชฺชิฯ อกฺขีสุ มณิวณฺณานิ อสฺสูนิ สญฺจริํสุฯ ตโต เน อาห – ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคตตฺถา’’ติฯ เต ‘‘กิํ ปน ตฺวํ ‘มยฺหํ สนฺติกํ อาคตา’ติ? อมฺเห มญฺญสิ คิหิพฺยญฺชนภฏฺฐกา’’ติ วตฺวา, ‘‘สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สตฺถุ สนฺติกํ อาคตมฺหา’’ติ อาหํสุฯ โส ‘‘มยฺหํ ภาตุ สนฺติเก อาคตา ตุมฺเห, ยทิ เอวํ อิทานิ โว อาคตมคฺเคเนว คมนํ กริสฺสามี’’ติ กุชฺฌิตฺวา นิกฺขนฺโต อนฺตรามคฺเค จินฺเตสิ – ‘‘มยิ อิมินาว นีหาเรน คเต สตฺถา เอเต น นีหราเปสฺสตี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน อสฺสูนิ ปวตฺตยมาโน อคมาสิฯ อิมินา การเณน เอส เอวํ ชาโตติฯ

วาจาสนฺนิโตทเกนาติ วจนปโตเทนฯ สญฺชมฺภริมกํสูติ สญฺชมฺภริตํ นิรนฺตรํ ผุฏํ อกํสุ, อุปริ วิชฺฌิํสูติ วุตฺตํ โหติฯ วตฺตาติ ปเร ยทิจฺฉกํ วทติเยวฯ โน จ วจนกฺขโมติ ปเรสํ วจนํ ขมิตุํ น สกฺโกติฯ อิทานิ ตาว ตฺวํ อิมินา โกเปน อิมินา วุตฺตวาจาสนฺนิโตทเกน วิทฺโธฯ อตีเต ปน รฏฺฐโต จ ปพฺพาชิโตติฯ เอวํ วุตฺเต, ‘‘กตรสฺมิํ กาเล ภควา’’ติ? ภิกฺขู ภควนฺตํ ยาจิํสุฯ

สตฺถา อาห – อตีเต พาราณสิยํ พาราณสิราชา รชฺชํ กาเรสิฯ อเถโก ชาติมา, เอโก มาตงฺโคติ ทฺเว อิสโย พาราณสิํ อคมํสุฯ เตสุ ชาติมา ปุเรตรํ คนฺตฺวา กุมฺภการสาลายํ นิสีทิฯ มาตงฺโค ตาปโส ปจฺฉา คนฺตฺวา ตตฺถ โอกาสํ ยาจิ กุมฺภกาโร ‘‘อตฺเถตฺถ ปฐมตรํ ปวิฏฺโฐ ปพฺพชิโต, ตํ ปุจฺฉา’’ติ อาหฯ โส อตฺตโน ปริกฺขารํ คเหตฺวา สาลาย ทฺวารมูเล ฐตฺวา, ‘‘อมฺหากมฺปิ อาจริย เอกรตฺติวาสาย โอกาสํ เทถา’’ติ อาหฯ ‘‘ปวิส, โภ’’ติฯ ปวิสิตฺวา นิสินฺนํ, ‘‘โภ, กิํ โคตฺโตสี’’ติ? ปุจฺฉิฯ ‘‘จณฺฑาลโคตฺโตมฺหี’’ติฯ ‘‘น สกฺกา ตยา สทฺธิํ เอกฏฺฐาเน นิสีทิตุํ, เอกมนฺตํ คจฺฉา’’ติฯ โส จ ตตฺเถว ติณสนฺถารกํ ปตฺถริตฺวา นิปชฺชิ, ชาติมา ทฺวารํ นิสฺสาย นิปชฺชิฯ อิตโร ปสฺสาวตฺถาย นิกฺขมนฺโต ตํ อุรสฺมิํ อกฺกมิฯ ‘‘โก เอโส’’ติ จ วุตฺเต? ‘‘อหํ อาจริยา’’ติ อาหฯ ‘‘เร จณฺฑาล, กิํ อญฺญโต มคฺคํ น ปสฺสสิ? อถ เม อาคนฺตฺวา อกฺกมสี’’ติฯ ‘‘อาจริย, อทิสฺวา เม อกฺกนฺโตสิ, ขม มยฺห’’นฺติฯ โส มหาปุริเส พหิ นิกฺขนฺเต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ปจฺจาคจฺฉนฺโตปิ อิโตว อาคมิสฺสตี’’ติ ปริวตฺเตตฺวา นิปชฺชิฯ มหาปุริโสปิ ‘‘อาจริโย อิโต สีสํ กตฺวา นิปนฺโน, ปาทสมีเปน คมิสฺสามี’’ติ ปวิสนฺโต ปุน อุรสฺมิํเยว อกฺกมิฯ ‘‘โก เอโส’’ติ จ วุตฺเต? ‘‘อหํ อาจริยา’’ติ อาหฯ ‘‘ปฐมํ ตาว เต อชานนฺเตน กตํ, อิทานิ มํ ฆเฏนฺโตว อกาสิ, สูริเย เต อุคฺคจฺฉนฺเต สตฺตธา มุทฺธา ผลตู’’ติ สปิฯ มหาปุริโส กิญฺจิ อวตฺวา ปุเรอรุเณเยว สูริยํ คณฺหิ, นาสฺส อุคฺคนฺตุํ อทาสิฯ มนุสฺสา จ หตฺถิอสฺสาทโย จ ปพุชฺฌิํสุฯ

มนุสฺสา ราชกุลํ คนฺตฺวา, ‘‘เทว, สกลนคเร อปฺปพุทฺโธ นาม นตฺถิ, น จ อรุณุคฺคํ ปญฺญายติ, กินฺนุ โข เอต’’นฺติ? เตน หิ นครํ ปริวีมํสถาติฯ เต ปริวีมํสนฺตา กุมฺภการสาลายํ ทฺเว ตาปเส ทิสฺวา, ‘‘อิเมสํ เอตํ กมฺมํ ภวิสฺสตี’’ติ คนฺตฺวา รญฺโญ อาโรเจสุํฯ รญฺญา จ ‘‘ปุจฺฉถ เน’’ติ วุตฺตา อาคนฺตฺวา ชาติมนฺตํ ปุจฺฉิํสุ – ‘‘ตุมฺเหหิ อนฺธการํ กต’’นฺติฯ ‘‘น มยา กตํ, เอส ปน กูฏชฏิโล ฉโว อนนฺตมาโย, ตํ ปุจฺฉถา’’ติฯ เต อาคนฺตฺวา มหาปุริสํ ปุจฺฉิํสุ – ‘‘ตุมฺเหหิ, ภนฺเต, อนฺธการํ กต’’นฺติฯ ‘‘อาม อยํ อาจริโย มํ อภิสปิ, ตสฺมา มยา กต’’นฺติฯ เต คนฺตฺวา รญฺโญ อาโรเจสุํฯ ราชาปิ อาคนฺตฺวา มหาปุริสํ ‘‘ตุมฺเหหิ กตํ, ภนฺเต’’ติ? ปุจฺฉิฯ ‘‘อาม, มหาราชา’’ติฯ ‘‘กสฺมา ภนฺเต’’ติ? ‘‘อิมินา อภิสปิโตมฺหิ, สเจ มํ เอโส ขมาเปสฺสติ, สูริยํ วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติฯ ราชา ‘‘ขมาเปถ, ภนฺเต, เอต’’นฺติ อาหฯ อิตโร ‘‘มาทิโส ชาติมา กิํ เอวรูปํ จณฺฑาลํ ขมาเปสฺสติ? น ขมาเปมี’’ติฯ

อถ นํ มนุสฺสา ‘‘น กิํ ตฺวํ อตฺตโน รุจิยา ขมาเปสฺสสี’’ติ? วตฺวา หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ คเหตฺวา ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘ขมาเปหี’’ติ อาหํสุฯ โส นิสฺสทฺโท นิปชฺชิฯ ปุนปิ นํ ‘‘ขมาเปหี’’ติ อาหํสุฯ ตโต ‘‘ขม มยฺหํ, อาจริยา’’ติ อาหฯ มหาปุริโส ‘‘อหํ ตาว ตุยฺหํ ขมิตฺวา สูริยํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, สูริเย ปน อุคฺคเต ตว สีสํ สตฺตธา ผลิสฺสตี’’ติ วตฺวา, ‘‘อิมสฺส สีสปฺปมาณํ มตฺติกาปิณฺฑํ มตฺถเก ฐเปตฺวา เอตํ นทิยา คลปฺปมาเณ อุทเก ฐเปถา’’ติ อาหฯ มนุสฺสา ตถา อกํสุฯ เอตฺตาวตา สรฏฺฐกํ ราชพลํ สนฺนิปติฯ มหาปุริโส สูริยํ มุญฺจิฯ สูริยรสฺมิ อาคนฺตฺวา มตฺติกาปิณฺฑํ ปหริฯ โส สตฺตธา ภิชฺชิฯ ตาวเทว โส นิมุชฺชิตฺวา เอเกน ติตฺเถน อุตฺตริตฺวา ปลายิฯ สตฺถา อิมํ วตฺถุํ อาหริตฺวา, ‘‘อิทานิ ตาว ตฺวํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ปริภาสํ ลภสิ, ปุพฺเพปิ อิมํ โกธํ นิสฺสาย รฏฺฐโต ปพฺพาชิโต’’ติ อนุสนฺธิํ ฆเฏตฺวา อถ นํ โอวทนฺโต น โข เต ตํ ติสฺส ปติรูปนฺติอาทิมาหฯ นวมํฯ

10. เถรนามกสุตฺตวณฺณนา

[244] ทสเม วณฺณวาทีติ อานิสํสวาทีฯ ยํ อตีตํ ตํ ปหีนนฺติ อตีเต ขนฺธปญฺจเก ฉนฺทราคปฺปหาเนน ตํ ปหีนํ นาม โหติฯ อนาคตนฺติ อนาคตมฺปิ ขนฺธปญฺจกํ ตตฺถ ฉนฺทราคปฏินิสฺสคฺเคน ปฏินิสฺสฏฺฐํ นาม โหติ สพฺพาภิภุนฺติ สพฺพา ขนฺธายตนธาตุโย จ ตโย ภเว จ อภิภวิตฺวา ฐิตํฯ สพฺพวิทุนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการํ สพฺพํ วิทิตํ ปากฏํ กตฺวา ฐิตํฯ สพฺเพสุ ธมฺเมสูติ เตสฺเวว ธมฺเมสุ ตณฺหาทิฏฺฐิเลเปหิ อนุปลิตฺตํฯ สพฺพญฺชหนฺติ ตเทว สพฺพํ ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ชหิตฺวา ฐิตํฯ ตณฺหกฺขเย วิมุตฺตนฺติ ตณฺหกฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน ตทารมฺมณาย วิมุตฺติยา วิมุตฺตํฯ ทสมํฯ